ที่บดกาแฟมือหมุน K2 ใบมีดเซรามิค ปรับความละเอียดได้ ดีไซน์สวย | 480 บาท

ฟินไปกับบรรยากาศยามเช้า เคล้าไปกับกลิ่นหอมของเมล็ดกาแฟคั่วที่ถูกบดอย่างช้า ๆ ด้วยมือของเราด้วย ที่บดกาแฟมือหมุน K2  บดได้เร็วด้วยเฟืองบดเซรามิคคู่แบบหมุนเกลียวบด ปรับระดับการบดหยาบหรือละเอียดได้ ดีไซน์สวย ทรงสามเหลี่ยม แปลกตา ก้านหมุนพับเก็บได้ ประหยัดพื้นที่ สามารถบดเมล็ดกาแฟสูงสุดได้ 20-25 กรัม ต่อ 1 ครั้ง  กำลังเป็นที่นิยมในบรรดาผู้ชื่นชอบการดื่มกาแฟแนว Slow bar 

ที่บดกาแฟมือหมุน จาก K2 ดีไซน์สวยแปลกตา  รูปทรงสามเหลื่ยม  ตัวก้านหมุนสามารถพับ-กางได้  ทำจากวัสดุสแตนเลส และอะคริลิค ตัวเฟืองบดเป็นเซรามิคคู่แบบเกลียวหมุน สามารถปรับระดับความละเอียด-หยาบ   สามารถใช้บดชงกาแฟ แบบ French-press / Moka pot / Drip / Cold brew ฯลฯ

ดื่มกาแฟคั่วบดร้อน ๆ แนว Slow bar ง่าย ๆ แถมไม่ต้องจ่ายแพงด้วย ที่บดกาแฟมือหมุน จาก K2

การชงกาแฟสด แนว Slow bar หรือการชงกาแฟด้วยอุปกรณ์ที่ไม่ใช้ไฟฟ้า  กำลังเป็นที่นิยมมากในวงการคนชอบดื่มกาแฟ และคนแค้มปิ้ง เพราะนอกจากจะได้ลิ้มรสชาติกาแฟที่อร่อยแล้ว  ยังได้สูดกลิ่นหอมๆจากกาแฟ ระหว่างที่ลงมือ บด และชง กาแฟเองอีกด้วย จะว่าไปก็เป็นความสุขเล็ก ๆ ระหว่างวันที่ทำให้เราเว้นวรรคจากหน้าจอมือถือ  มาอยู่กับตัวเอง และถือเป็นการคลายเครียดไปด้วยในตัว

ที่บดกาแฟมือหมุน  จึงเป็นอุปกรณ์แรก ๆ ที่คนอยากเข้าวงการ Slow bar ต้องมี  เพราะต้องใช้ในการบดเมล็ดกาแฟ  และเพื่อให้การการทำกาแฟสดสะดวก ง่าย สำหรับทุกคนและทุกที่  ทางแบรนด์ K2 จึงตั้งใจดีไซน์ ที่บดกาแฟมือหมุน  ให้สามารถบดเมล็ดกาแฟได้รวดเร็ว ปรับระดับการบดได้เพียงหมุนเฟืองเซรามิคที่ก้นเครื่องบด ตัวด้านบนที่ใส่เมล็ดกาแฟเข้าไป

ทาง K2 ใส่ใจกับความแข็งแรงของวัสดุเป็นสำคัญ  เพราะตั้งใจออกแบบเพื่อนักเดินทาง นักผจญภัย ทั้งหลาย  จึงไม่แปลกใจที่เหล่าแค้มเปอร์จะถอย เครื่องบดกาแฟมือหมุนจาก K2 เป็นประจำ

จุดเด่นของ ที่บดกาแฟมือหมุน รุ่นนี้

• ตัว เครื่องบดกาแฟมือหมุน ผลิตจากสแตนเลสคุณภาพสูง มีความแข็งแรง ทนทานต่อแรงกดกระแทก ขนาดเหมาะแก่การพกพา สายเดินทางท่องเที่ยว เดินป่า แค้มปิ้งจึงสามารถพกไปทำกาแฟสด เพื่อเติมเต็มบรรยากาศการแค้มปิ้งของคุณได้อย่างสมบูรณ์แบบ ได้ทุกที่ที่ต้องการ
• Design สวย แปลกตา ทางแบรนด์ K2  ออกแบบให้เป็น ทรงสามเหลื่ยม ที่ช่วยให้เราจับถนัดมือ ระหว่างที่บดเมล็ดกาแฟ
• ไม่ต้องใช้ไฟฟ้าหรือแบตเตอรี่ ก็บดเมล็ดกาแฟด้วย 2 มือของเรา และบดได้เร็วด้วยเฟืองบดเซรามิคคู่แบบหมุนเกลียวบด
• สามารถปรับระดับการบดหยาบ – ละเอียดได้ง่าย
• ก้านหมุนสำหรับใช้หมุนบดเมล็ดกาแฟ  ดีไซน์ให้สามารถพับเก็บได้ จึงไม่เปลืองพื้นที่
• สามารถถอดเครื่องออกมาทำความสะอาดได้ง่ายมาก  ไม่ต้องการผงกาแฟจะหมักหมมในตัวเครื่อง
• บรรจุเมล็ดกาแฟคั่วได้สูงสุด 20-25 กรัม  หรือ ชงกาแฟได้ราว 6 แก้ว  สามารถใช้คู่กับ หม้อต้มกาแฟ K2 ขนาด 6 cups ได้เลย
• มีหน้าต่างใสที่ตัว เครื่องบดกาแฟมือหมุน  ช่วยให้มองเห็นระดับของปริมาณผงกาแฟที่ถูกบดแล้วได้ง่าย

รายละเอียดของ ที่บดกาแฟมือหมุน K2

• ตัวเครื่องบดกาแฟมือหมุน วัสดุทำจากสแตนเลส อะคริลิค คุณภาพสูง ทนทานต่อแรงกดกระแทก
• ตัวเฟืองบดเป็นเซรามิคคู่ แบบเกลียวหมุน
• ก้านหมุนสำหรับใช้หมุนบดเมล็ดกาแฟ พับเก็บ และกางออกได้ เมื่อต้องการใช้งาน
• น้ำหนัก 310 กรัม

เริ่มต้นความสุขวันใหม่แบบ Homemade ง่าย ๆ ด้วย ที่บดกาแฟมือหมุน เพียง 3 ขั้นตอน ดังนี้

1. เทเมล็ดกาแฟใส่เครื่องบดเมล็ดกาแฟแบบมือ  จากนั้นปรับระดับความละเอียดการบดให้อยู่ระดับที่ต้องการ  แล้วใช้มือหมุนบดเมล็ดกาแฟจนละเอียดหมด
2. เทน้ำใส่หม้อต้มกาแฟ โดยห้ามเทน้ำเกินวาล์วแรงดัน ที่ตัวหม้อกำหนดไว้  จากนั้นนำผงเมล็ดกาแฟที่เราบดเรียบร้อยแล้ว มาเทใส่ตัวฟิลเตอร์ เคาะรอบ ๆ ตัวฟิลเตอร์เบาๆ เพื่อให้ผงกาแฟเกลี่ยเท่ากันไม่เทกองไปด้านใดด้านหนึ่ง
3. นำตัวฟิลเตอร์มาประกอบเข้ากับหม้อต้มกาแฟ หมุนบิดตัวเหยือกกาแฟเข้ากับตัวหม้อให้เรียบร้อย  ติดไฟบนเตาแค้มปิ้ง โดยให้เปลวไฟอยู่ระดับกลาง นำ หม้อต้มกาแฟ ขึ้นตั้งบนเตา  ปรับระดับความแรงเปลวไฟให้ไม่เกินขนาดของก้นหม้อต้มกาแฟ  รอจนน้ำเริ่มเดือด จะเกิดแรงดันน้ำดันน้ำผ่านผงกาแฟ เปลี่ยนเป็นน้ำกาแฟไหลขึ้นมาบน เหยือกกาด้านบน
4.  ปิดเตา เทกาแฟยกเสิร์ฟได้เลย

หมายเหตุ  การต้มกาแฟสดด้วยมอคค่าพอท อาจมีกากกาแฟหลงเหลือติดมาในหม้อด้วย  เพื่อให้อรรถรสการดื่มกาแฟฟินมากขึ้นแนะนำให้ซื้อกระดาษกรองฟิลเตอร์ที่ใช้กับมอคค่ามาวางบนฟิลเตอร์ที่ใส่ผงกาแฟก่อนทำการต้มกาแฟ

วิธีการดูแลรักษา ที่บดกาแฟแบบมือหมุน K2

• หลังการใช้งานทุกครั้ง ให้ใช้แปรงปัดผงกาแฟออก แต่หากไม่มีแปรงปัด ให้ถอดส่วนประกอบของ เครื่องบดกาแฟมือหมุน อกกให้หมด  จากนั้นใช้น้ำเปล่าล้างคราบผงกาแฟออกให้หมด   ผึ่งในที่ร่มให้แห้ง  จากนั้นประกอบให้เหมือนเดิม เก็บเข้าที่ให้เรียบร้อย
• ไม่เก็บในที่ที่มีความร้อนเกินกว่า  40 องศา  เพราะอาจทำให้ตัวยาง seal เสื่อมสภาพเร็ว
• หลีกเลี่ยงการโยน การตกกระแทกที่รุนแรง  เพราะอาจทำให้ตัวเครื่องบุบ

trekkingTHAI Adventure Shop คือใคร ?