ฟลายชีท4×5 เมตร เคลือบกัน UV กันแดด กันฝน ราคาไม่แรง | 790 บาท

• ผืนใหญ่ สามารถกางรองรับคณะนั่งล้อมวงภายใต้ฟลายชีทผืนนี้ได้ถึง 10-15 คน ได้พอดี ช่วยให้นอนหลบฝน หลบแดด หรือจะกางคลุมเต็นท์อีก1 ชั้น หรือที่นักเดินป่าเรียกว่า “ดับเบิ้ลฟลายชีท” เพื่อป้องกันฝน ก็สามารถคลุมเต็นท์ขนาด 2 คนนอนได้ 4 หลัง
• เสริมความแข็งแรงด้วยการเย็บมุมทั้งหมด 14 มุม และตอกตาไก่ทั้งหมด 4 มุม ช่วยให้เวลากางฟลายชีทไม่ตกท้องช้างเพราะมีจุดดึง 14 มุม
  
• วัสดุหลักของฟลายชีทรุ่นนี้คือ ผ้าโพลีเอสเตอร์ ซึ่งเป็นผ้าที่นิยมใช้ในการผลิตอุปกรณ์แค้มปิ้ง กันน้ำฝนได้ระดับหนึ่ง  มีความทนทานระดับหนึ่งเช่นกัน  

ฟลายชีท4X5 เมตร เคลือบกัน UV เหมาะนำไปใช้งานแบบไหนได้บ้าง

ฟลายชีทรุ่นนี้ มีขนาดค่อนข้างใหญ่  ดังนั้นจึงเหมาะแก่การนำไปกางเป็นหลังคาให้กับลานนั่งทานอาหารหรือนั่งเล่นกลางป่า หรือที่คนเดินป่าเรียกกันว่า “แค้มป์กลาง”  ซึ่งสามารถรองรับคนได้มากถึง 15 คน  พร้อมมุมทำอาหารสบาย ๆ ไม่ต้องนั่งเบียด

หรือสามารถนำไปกางเป็นหลังคาป้องกันฝน หรือน้ำค้างให้กับเต็นท์นอนอีกชั้นหนึ่งก็ได้ จะยิ่งช่วยให้เรานอนกลางป่าได้อย่างแห้งสบายมากถึง 95% เลยทีเดียว

รายละเอียดของ ฟลายชีท4X5 เมตร เคลือบกัน UV

• วัสดุหลักของเนื้อผ้าฟลายชีท : โพลีเอสเตอร์ เคลือบ silver UV
• เคลือบกันน้ำ 1000 mm
• มีห่วงสำหรับดึงเชือก 14 ห่วง  ตาไก่สำหรับดึง หรือค้ำเสาฟลายชีท ทั้งหมด 4 มุม
• ขนาดยาว*กว้าง : 3.95×4.95 เมตร ***เนื่องจากมีการเย็บขอบด้านกว้างเข้าไปด้าน 2.5 ซม.
• น้ำหนัก 2000 กรัม

ทำไมถึงต้องใช้ฟลายชีทในการเดินป่า/แค้มปิ้ง

หากเต็นท์นอน เปรียบเสมือนบ้านเคลื่อนที่  ฟลายชีทก็เปรียบเสมือนหลังคาของที่พักอาศัย  หรือห้องนั่งเล่นแบบ Open air ชั้นดีที่ช่วยให้เราเห็นวิวรอบด้าน และป้องกันแดดและฝนให้เราเป็นอย่างดี

ดังนั้นจึงเป็นอุปกรณ์สำคัญที่เราจำเป็นต้องมีในการออกไปตั้งแค้มป์เป็นอย่างมาก   โดยเฉพาะการตั้งแค้มป์นั้นอยู่ในพื้นที่ป่า หรือพื้นที่ที่ไม่มีสิ่งปลูกสร้างให้เราพักพิงในยามที่ลมแรงหรือฝนตก   โดยปกติฟลายชีทจะถูกนำไปทำกางเป็นเป็นพื้นที่สำหรับนั่งทานข้าว นั่งเล่นพูดคุยกันในกลุ่มครอบครัว หรือกลุ่มเพื่อน ๆ ที่ไปตั้งแค้มป์ร่วมกัน

ขนาดของฟลายชีทแบบไหนถึงเหมาะกับเรา

ปัจจุบันในเราจะเห็นว่ามีฟลายชีทหลายขนาดที่มีวางขายอยู่ตามหน้าเว็บไซต์ หรือเพจต่าง ๆ   ไม่ว่าจะเป็นขนาด 2×3 เมตร  , 3×3 เมตร  , 4×3 เมตร หรือ 4×5.2 เมตร  ซึ่งหลายคนก็มักจะเกิดคำถามว่า  “แล้วเราควรจะเลือกซื้อฟลายชีทแบบไหนดี?” 

 Tips ง่ายๆ ในการเลือกซื้อขนาดฟลายชีทที่เหมาะกับตัวเรา

1 ต้องการใช้ฟลายชีทไปทำหน้าที่อะไร?

2 ดูขนาดของอุปกรณ์การนอนของเราก่อนเลือกซื้อฟลายชีท

3 จำนวนคนที่ไปกับเรา

ก่อนอื่น เราต้องชัดเจนกับตัวเองก่อนว่า เราจะนำฟลายชีทไปทำหน้าที่อะไร

• หลังคาให้กับเปลมุ้ง  ควรเลือกฟลายชีทขนาด 2×3 เมตร – 3×3 เมตร  จะกำลังพอดี  เพราะหากเลือกขนาดใหญ่ไป จะทำให้กางฟลายชีทตึงไมได้ เราต้องทนนอนให้น้ำค้างซึมหยดใส่ตัวตลอดทั้งคืนก็เป็นได้
• หลังคาให้กับเต็นท์นอน ต้องดูด้วยว่าขนาดของเต็นท์อยู่ที่ขนาดเท่าไหร่  แล้วจึงค่อยมาเลือกขนาดของฟลายชีทที่มีขนาดใหญ่กว่าเต็นท์ไม่ต่ำกว่าด้านละ 1-2 เมตร  เพื่อให้มีพื้นที่นั่งเล่นหน้าเต็นท์นอน และยังป้องกันฝนสาดเข้ามาถึงเต็นท์ได้อีกด้วย
• ห้องครัว ห้องนั่งเล่น กลางลานธรรมชาติ 
  • ฟลายชีทขนาด 3×3 เมตร  เหมาะสำหรับขนาดจำนวนคนตั้งแต่ 2-3  คน แบบสบาย ๆ หลวมๆ
  • ฟลายชีทขนาด 3×4 เมตร  เหมาะสำหรับขนาดจำนวนคนตั้งแต่4-7 คน แบบสบาย ๆ หลวมๆ
  • ฟลายชีทขนาด 4×6 เมตร  เหมาะสำหรับขนาดจำนวนคนตั้งแต่8-15 คน แบบสบาย ๆ หลวมๆ

เราสามารถ กางฟลายชีท แบบไหนได้บ้าง?

ฟลายชีท 1 ผืน ถูกออกแบบให้สามารถกางใช้งานได้หลากหลาย ซึ่งขึ้นอยู่กับสถานการณ์และความเหมาะสมของสภาพแต่ละพื้นที่  โดยปกติฟลายชีทจะถูกนำไปทำกางเป็นเป็นพื้นที่สำหรับนั่งทานข้าว นั่งเล่นพูดคุยกันในกลุ่มครอบครัว หรือกลุ่มเพื่อน ๆ ที่ไปตั้งแค้มป์ร่วมกัน  เทคนิคการกางฟลายชีทจึงเป็นเรื่องสำคัญ  เราจึงได้นำเทคนิคการกางฟลายชีทที่เหมาะกับกลุ่มนักเดินทางในประเทศไทยมาฝากเพื่อน ๆ กัน 4  แบบ และเป็นแบบที่ทำได้ไม่ยากเลยล่ะ** อ่านวิธีการกางฟลายชีท ได้ที่นี่ >> วิธีกางฟลายชีท

อุปกรณ์ที่มักใช้ร่วมกับการกางฟลายชีท

การกางฟลายชีทให้ตึงสวย มีความลำบาก ฟลายชีทที่มีขนาดใหญ่เมื่อกางออกมาแล้ว หากไม่รู้เทคนิค ปัญหาส่วนใหญ่ที่พบมักจะเห็นว่าตัวฟลายชีทมีการหย่อน น้ำค้างหยดตามตัวฟลายชีทและหยดลงศีรษะระหว่างที่นั่งทานอาหารหรือนั่งเล่นพูดคุยกันใต้ฟลายชีทที่หย่อนยานนี้ และโดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อเกิดฝนตก เราจะเห็นว่ามีกองน้ำใหญ่ค้างอยู่บนฟลายชีท หรือศัพท์ที่นักเดินป่าเรียกกันว่า “ตกท้องช้าง” และยิ่งกางฟลายชีทในที่ลมแรง ความยากในการกางฟลายชีทในที่ลมแรงให้ตึงเปรี๊ยะยิ่งมีความลำบากมากยิ่งขึ้น  ดังนั้น เพื่อให้สามาถกางฟลายชีทได้แข็งแรง และป้องกันฝนได้ดี  จึงต้องมีอุปกรณ์แค้มปิ้งอื่นๆ มาร่วมด้วย ไม่ว่าจะเป็น..

• เชือกกลางสำหรับตั้งแค้มป์ :  เปรียบเสมือนเป็นกระดูกสันหลังของฟลายชีท  หรือขื่อของบ้าน  เชือกกลางจึงมักเป็นเชือกเส้นใหญ่ มีความแข็งแรงและยาวกว่าเชือกดึงฟลายชีท
• เชือกและตัวรั้งเชือกสำหรับดึงตัวฟลายชีท  :  เป็นเชือกเส้นเล็กแต่มีความแข็งแรงต่อแรงดึงสูง ใช้สำหรับดึงปีกฟลายชีทให้ตึง ไม่ตกท้องช้าง  ซึ่งเป็นสาเหตุของน้ำซึมตามตะเข็บฟลายชีท  มักใช้คู่กับตัวรั้งเชือก เพื่อให้สะดวกต่อการดึงเชือก ไม่ต้องเสียเวลาปรับมัดเชือก
• สมอบก : เป็นอุปกรณ์ที่จะช่วยยึดให้ฟลายชีทมีความแข็งแรงคงหนีไม่พ้น “สมอบก” โดยปกติหากเป็นการแค้มปิ้งในป่าที่ต้องมีการเดินเท้าเข้าไป โดยส่วนมากเรามักจะใช้ไม้ทำสมอบก ที่มีความยาวราว 1 ฟุต หรือมากกว่า แล้วฟันปลายไม้ให้มีปลายแหลม เพื่อให้ง่ายต่อการตอกลงดินในลักษณะทำมุม 45 องศา แล้วจึงดึงฟลายชีทให้ตึง แล้วนำเชือกจากมุมของฟลายชีทมายึดด้วยเงื่อนตะกรุดเบ็ด
• เสาฟลายชีท : เพิ่มความโปร่งโล่งสบาย และความตึงเปรี๊ยะให้กับฟลายชีท  เรามักจะเลือกใช้เสาฟลายชีทขนาด 2 เมตรขึ้นไป เพื่อนำมาดันเชือกฟลายชีทบริเวณด้านปลายฟลายชีท กับปีกฟลายชีท เพื่อดันให้ฟลายชีทตึงและเปิดโล่ง ง่ายต่อการเข้าออกอ่านเทคนิคการกางฟลายชีทเพิ่มเติม >> 5 ขั้นตอนง่ายๆ กาง ฟลายชีท ในที่ลมแรง ให้ตึงเปรี๊ยะ